ทำความรู้จักแมวไทยมงคล 5 สายพันธุ์ มาเปิดประตูรับโชคลาภ พร้อมสัมผัสเสน่ห์มนตร์ขลังของแมวไทยในตำนานกัน
แมวไทยนั้นไม่ได้เป็นเพียงสัตว์เลี้ยงแสนน่ารัก แต่ยังแฝงไว้ด้วยตำนานและความเชื่ออันล้ำค่า โดยเฉพาะความเป็นแมวไทยมงคลที่มีลักษณะพิเศษตามตำราโบราณ ซึ่งว่ากันว่าแมวเหล่านี้จะนำโชคลาภ เงินทอง และความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ผู้เลี้ยง ในวันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จักกับแมวไทยมงคลทั้ง 5 สายพันธุ์ ที่ยังมีชีวิตและนิยมเลี้ยงในปัจจุบัน พร้อมไขความลับ เอกลักษณ์ และความหมายอันเป็นมงคลของน้อง ๆ กัน
แมวไทย คืออะไร ?
แมวไทย (Siamese Cat) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Felis Silvestris เป็นแมวที่สืบเชื้อสายจากแมวไทยโบราณ ลักษณะเด่นคือ มีศีรษะไม่กลมหรือแหลมจนเกินไป หน้าผากกว้าง จมูกสั้น หูสั้นและตั้ง ลำตัวมีขนาดปานกลางและเพรียวบาง ขาเรียวได้รูปเข้ากับสัดส่วน ปลายหางเรียวแหลมและชี้ตรง อีกทั้งยังเป็นแมวที่มีความฉลาด รักเจ้าของ รักอิสระ รู้จักประจบ
นอกจากนี้ยังมีการบันทึกลักษณะแมวไทยโบราณไว้ในสมุดข่อย ประกอบด้วยแมวลักษณะที่ดี 17 ชนิด และแมวลักษณะร้าย 6 ชนิด ซึ่งมีความเชื่อที่ว่าหากผู้ใดได้เลี้ยงแมวที่ลักษณะดีก็จะเป็นมงคล นำโชคลาภมาให้ ช่วยให้ค้าขายได้กำไร มีความเจริญรุ่งเรือง และเป็นที่รักของคนทั่วไปอีกด้วย
แมวไทยมงคล 5 สายพันธฺุ์
1. แมวขาวมณี หรือขาวปลอด (Khao Manee)
แมวขาวมณี เป็นแมวพันธุ์หายากที่ถูกค้นพบครั้งแรกในประเทศไทย และมีประวัติศาสตร์ยาวนานหลายร้อยปี ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ถูกบันทึกในตำราแมวโบราณ แต่ก็ถือว่าเป็นแมวลักษณะดี และได้รับความนิยมมากในหมู่ผู้เลี้ยงแมว
แมวขาวมณี มีลักษณะเด่นคือ ขนสั้น เรียบ สีขาวล้วน โดยบางตัวจะมีตาสีฟ้าและสีเขียวอย่างละข้าง แมวพันธุ์นี้มีนิสัยขี้เล่นซุกซน ร่าเริง มีชีวิตชีวา และชอบเข้าสังคม สามารถเข้ากับเด็กและสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ รวมทั้งคนแปลกหน้าได้ดี ทำให้เป็นแมวที่เหมาะแก่การเลี้ยงไว้รับแขก
2. แมววิเชียรมาศ (Siamese Cat)
ในอดีตกาลแมววิเชียรมาศเป็นเพียงแมวพันธุ์เดียวที่ได้การยอมรับให้เป็นสัตว์เลี้ยงในราชวงศ์ โดยตามตำนานแล้วแมววิเชียรมาศทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์วิหาร ปกป้องดวงวิญญาณของผู้มีอิทธิพลที่ล่วงลับไปแล้ว ซึ่งได้รับการดูแลและให้อาหารเป็นอย่างดี โดยในปัจจุบันแมวพันธุ์นี้กลายเป็นที่รักของชาวไทย อีกทั้งเชื่อว่ายังช่วยเสริมด้านการเงินให้ผู้เลี้ยงมีทรัพย์สินเพิ่มพูนขึ้นอีกด้วย
แมววิเชียรมาศ มีลักษณะลำตัวเล็กสีขาว มีแต้มสีครั่งรวม 9 จุด ได้แก่ ใบหน้า หูทั้ง 2 ข้าง เท้าทั้ง 4 ข้าง หาง และอวัยวะเพศ นัยน์ตาสีฟ้าใส เป็นแมวที่มีชีวิตชีวาและฉลาดเฉลียว มีความอยากรู้อยากเห็นอยู่ตลอดเวลา มีนิสัยติดเจ้าของ ต้องการความรักและมีคนเล่นด้วย เหมาะสำหรับเลี้ยงในครอบครัว สามารถเข้ากับเด็ก ๆ รวมทั้งสุนัขได้ดี
อ่านเพิ่มเติม : แมววิเชียรมาศ เพชรแห่งดวงจันทร์ แมวไทยโบราณที่สร้างชื่อไปทั่วโลก
3. แมวศุภลักษณ์ (Suphalak)
แมวศุภลักษณ์ เป็นแมวที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศไท โดยมักถูกเหมารวมกับแมวพันธุ์เบอร์มีส หรือฮาวานาบราวน์ เนื่องจากมีสีน้ำตาลและทองแดงที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งที่จริงแล้วแมวศุภลักษณ์นั้นเป็นสายพันธุ์แยกออกมา โดยมีความเชื่อว่าจะช่วยนำยศศักดิ์มาให้แก่ผู้เลี้ยง
แมวศุภลักษณ์ มีลิ้นสีทองแดงหรือสีน้ำตาลคล้ามสีสนิม ตาสีเหลืองอำพัน แมวพันธุ์นี้จะมีความฉลาดและให้ความรักกับเจ้าของเท่ากับที่ได้รับจากเจ้าของ ชอบอยู่ใกล้เจ้าของตลอดเวลา สามารถเข้ากับคนในครอบครัวได้ดี จนถูกมองว่ามีนิสัยเหมือนสุนัขมากกว่าแมวพันธุ์อื่น ๆ และเนื่องจากแมวศุภลักษณ์เป็นแมวที่ค่อนข้างหายากและมีราคาสูง จึงเสี่ยงต่อการถูกขโมยและเหมาะที่จะเลี้ยงไว้ในบ้านมากกว่า
4. แมวโคราช (Korat)
แมวโคราช มีถิ่นกำเนิดมาจากเมืองพิมายของประเทศไทย โดยตั้งชื่อพันธุ์ตามชื่อจังหวัดนครราชสีมาที่คนไทยมักเรียกกันติดปากว่าโคราช ซึ่งในไทยแมวพันธุ์นี้จะมีอีกชื่อเรียกว่า “แมวสีสวาด” ถือเป็นแมวนำโชคที่มักจะถูกนำไปมอบให้คู่บ่าวสาวหรือบุคคลที่ได้รับการยกย่องเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดี
แมวโคราช มีสีขนที่เป็นเอกลักษณ์ คือสีน้ำเงินอมเงินเป็นประกาย ขนสั้น เล็บและหนวดมีสีขาว เป็นแมวที่มีนิสัยฉลาด น่ารัก เหมาะสำหรับเลี้ยงในครอบครัว โดยเมื่อเทียบกับแมวพันธุ์อื่น ๆ แล้ว แมวโคราชจะมีความเชื่องมากกว่า ชอบของเล่นและมีปฏิสัมพันธ์กับเจ้าของ แต่จะค่อนข้างกลัวคนแปลกหน้า
5. แมวนิลรัตน์ หรือแมวโกนจา (Konja)
แมวนิลรัตน์ เป็นแมวที่มีสีดำสนิท ทำให้ในบางครั้งถูกจำสับสนกับแมวบอมเบย์ และเนื่องจากลักษณะการเดินที่ดูสง่างามคล้ายสิงโต จึงเคยถูกนำไปเปรียบกับสิงห์ที่เป็นสิงโตในตำนานของไทย โดยคนไทยมักมีความเชื่อว่าการเลี้ยงแมวจะนำมาซึ่งโชคลาภ
แมวนิลรัตน์ ลักษณะเด่นคือ มีสีดำสนิทตลอดทั้งตัว มีร่องสีขาวจากใต้คางไปตามท้องจนสุดทวาร นัยน์ตาสีเหลืองดอกบวบ ปากแหลม หางเรียวยาว เท้าคล้ายสิงห์ ซึ่งไม่เพียงแต่สวยงาม ลึกลับ และมีเสน่ห์เท่านั้น แต่ยังเป็นแมวที่ฉลาด ขี้สงสัย น่ารัก และเป็นแมวที่เหมาะแก่การเลี้ยงในครอบครัว สามารถเข้ากับเด็ก ๆ ได้ดี แถมยังค่อนข้างติดเจ้าของ นอกจากนี้ยังเป็นแมวที่สามารถช่วยฮีลใจให้กับเจ้าของได้ดีอีกด้วย
ทั้งหมดนี้ก็คือแมวไทยมงคลทั้ง 5 สายพันธุ์ ที่เหมาะกับเพื่อน ๆ ทาสแมวสายมู หรือผู้ที่อยากได้แมวนำโชคไว้เลี้ยงเพื่อเสริมดวง เรียกโชคลาภ เงินทอง และนำพาสิ่งดี ๆ มาสู่ตัวเจ้าของ แต่หากนำมาเลี้ยงแล้วก็อย่าลืมเอาใจใส่เลี้ยงดูและให้ความรักกับน้องมาก ๆ ด้วยนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : m-culture.in.th และ catster.com