กระรอกเลี้ยงยากไหม ? ตามไปดูเรื่องน่ารู้ต่าง ๆ เกี่ยวกับกระรอก ทั้งนิสัย การให้อาหาร และวิธีเลี้ยงกระรอก ก่อนเอามาเลี้ยงที่บ้าน
กระรอก เป็นสัตว์อีกหนึ่งชนิดที่หลายคนนิยมนำมาเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยง เพราะตัวเล็ก น่ารัก และน่าจะเลี้ยงง่าย แต่ทั้งนี้ในการเลี้ยงกระรอกนั้นก็มีรายละเอียดที่จะต้องดูแลใส่ใจ ดังนั้นมาดูข้อมูลวิธีเลี้ยงกระรอกก่อนตัดสินใจนำมาเลี้ยงกัน
ลักษณะกระรอก
กระรอก (Squirrel) เป็นสัตว์ฟันแทะ เลี้ยงลูกด้วยนม มีขนาดลำตัวเล็กและมีความปราดเปรียวว่องไวสูง มีขนสีน้ำตาลเข้มปุยปกคลุมทั่วทั้งร่างกาย ยกเว้นใต้ท้องจะมีขนสีขาวครีม นัยน์ตากลมดำ และมีหางเป็นพวงฟู มีนิ้วเท้าหลังข้างละ 5 นิ้ว แต่มีนิ้วเท้าหน้าเพียงข้างละ 4 นิ้ว ไว้สำหรับจับอาหารมากัดแทะ อายุเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 8 ปี แต่บางตัวก็อาจอยู่ได้ถึง 15-20 ปี
ประเภทกระรอก
กระรอกต้นไม้ เป็นกระรอกประเภทที่พบเห็นได้มากที่สุด มักจะชอบปีนป่ายอยู่บนต้นไม้และกิ่งไม้
กระรอกดิน กระรอกประเภทนี้มักจะอาศัยอยู่ในป่า ขุดดินเพื่อใช้ในการจำศีลช่วงฤดูหนาว
กระรอกบิน จะมีพังผืดระหว่างขาแต่ละข้างที่สามารถกางออกเพื่อร่อนข้ามไปยังต้นไม้แต่ละต้นได้
ทั้งนี้ หากใครจะเลี้ยงกระรอกควรศึกษาข้อมูลทั้งายพันธุ์และวิธีเลี้ยงให้ละเอียดหรือขออนุญาตก่อนเลี้ยง เนื่องจากมีกระรอกบางสายพันธุ์ จัดอยู่ในกลุ่มเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง เช่น กระรอกขาว กระรอกบินแก้มสีแดง กระรอกบินแก้มสีเทา ฯลฯ หากฝ่าฝืนอาจมีผลทางกฎหมายได้
อาหารกระรอก
ตามธรรมชาติแล้วอาหารหลักของกระรอกคือผลไม้และเมล็ดพืช ไม่ว่าจะเป็นลูกสน เมล็ดพันธุ์ เห็ด ผลเบอร์รี่ โอ๊ก วอลนัท พีแคน และดอกไม้ต่าง ๆ แต่กระรอกก็ยังชอบกินแมลงด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ กระรอกขนาดใหญ่อย่างพญากระรอกก็อาจกินไข่นกเป็นอาหารในบางครั้งอีกด้วย
สำหรับกระรอกเลี้ยงนั้น ในวัยแรกเกิดถึง 2 เดือน ควรเน้นให้นมเป็นหลัก หรือถ้าเป็นนมแพะจะเหมาะสมที่สุด และเมื่ออายุได้ประมาณ 40 วัน ควรเริ่มบังคับให้กระรอกกินกล้วยก่อนกินนม จากนั้นเมื่ออายุได้ประมาณ 2 เดือน ฟันจะเริ่มขึ้น ควรเริ่มให้เมล็ดทานตะวัน เพื่อเป็นการลับฟันไปในตัว แล้วค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นผลไม้ชนิดอื่น เช่น ฝรั่ง เมล็ดข้าวโพด ทั้งนี้ ควรเลี้ยงพืชตระกูลสีแตงทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น แตงโม แตงกวา ฯลฯ เนื่องจากจะทำให้กระรอกท้องเสียได้
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่ากระรอกจะสามารถกินอาหารมนุษย์อย่างขนมและอาหารแปรรูปต่าง ๆ ได้ แต่มันก็ไม่ค่อยเป็นผลดีต่อสุขภาพของกระรอกเท่าไรนัก เพราะหากให้กินมาก ๆ ก็อาจทำให้เกิดโรคอ้วนและปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารได้นั่นเอง
วิธีเตรียมตัวก่อนนำกระรอกมาเลี้ยงในบ้าน
เนื่องจากกระรอกยังมีสัญชาตญาณของสัตว์ป่า ชอบเล่น ปีนป่ย และหลบซ่อน ดังนั้นก่อนจะนำกระรอกมาเลี้ยงในบ้าน มีสิ่งที่ควรรู้และเตรียมตัวไว้ก่อนดังนี้
เก็บสิ่งของมีค่าและของที่สามารถตกแตกได้ให้มิดชิด
ปิดช่องและรูต่าง ๆ รวมทั้งเก็บสิ่งของที่กระรอกอาจเข้าไปหลบซ่อนในนั้นได้
เก็บสารเคมีหรือสิ่งของอันตรายให้มิดชิด รวมทั้งขนมแปรรูปที่ไม่ควรให้กระรอกกิน
แยกกระรอกจากสัตว์เลี้ยงตัวอื่น ๆ ในบ้าน จนกว่ากระรอกจะคุ้นเคยกับบ้านเสียก่อน
คอยสอดส่องดูแลขณะที่กระรอกอยู่รวมกับสัตว์เลี้ยงตัวอื่น ไม่ปล่อยพวกมันอยู่กันตามลำพัง
วิธีเลี้ยงกระรอก
ใครที่อยากเริ่มเลี้ยงกระรอก แนะนำให้ทำความเข้าใจวิธีเลี้ยงกระรอกกันก่อน ว่าควรดูแลอย่างไรบ้าง ดังนี้
1. ให้อาหารที่เหมาะสม
ในการให้อาหารกระรอกนั้น ควรให้จำพวกเมล็ดพืชหรือแมลงตามที่กล่าวไปข้างต้น ไม่ควรให้กินอาหารมนุษย์หรืออะไรก็ได้ เพราะไม่ดีกับสุขภาพของกระรอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกระรอกวัยแรกเกิด ถ้าหากให้อาหารที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้กระรอกถึงกับป่วยและเสียชีวิตได้เลย
2. ให้น้ำที่เพียงพอ
นำถ้วยหรือชามใส่น้ำเปล่าวางไว้ในกรงหรือที่อยู่ของกระรอกไว้เสมอ เพื่อให้กระรอกได้รับน้ำที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ทั้งนี้ควรใช้เป็นถ้วยแก้วหรือถ้วยกระเบื้องใส่น้ำ เพราะถ้าเป็นถ้วยพลาสติก กระรอกอาจจะกัดแทะได้ นอกจากนี้ถ้ากระรอกยังเป็นวัยแรกเกิด ไม่ควรใช้ถ้วยใบใหญ่หรือใส่น้ำมากเกินไป เพราะกระรอกอาจตกลงไปในน้ำและจมน้ำเสียชีวิตได้
3. หากกระรอกมีแผลหรือบาดเจ็บ
หากจับกระรอกจากข้างนอกหรือในป่ามาเลี้ยง แนะนำให้ตรวจเช็กร่างกายของกระรอกก่อนว่ามีรอยแผลหรือการบาดเจ็บใด ๆ ไหม ถ้าหากมีแผลเพียงเล็กน้อย ให้เช็ดทำความสะอาดเบา ๆ ด้วยผ้าชุบน้ำอุ่น แต่ถ้าหากกระรอกบาดเจ็บหรือมีแผลใหญ่เลือดออกมาก แนะนำให้พาส่งสัตวแพทย์ให้เร็วที่สุด
4. กระรอกจำเป็นต้องออกกำลังกาย
เนื่องจากร่างกายของกระรอกนั้นจำเป็นต้องมีการออกกำลังกายบ้าง จึงควรมีของเล่นที่ให้กระรอกได้ปีนป่ายหรือวิ่งเล่นได้ภายในกรง หรืออาจจะปล่อยให้วิ่งเล่นในห้องสักพักก็ได้ แต่จะต้องปิดประตูหน้าต่างให้สนิทเพื่อไม่ให้กระรอกหนีออกไปข้างนอก และเก็บของมีค่าหรือของที่สามารถตกแตกได้ให้มิดชิดก่อนด้วย
วิธีฝึกกระรอกให้เชื่อง
ถึงแม้ว่ากระรอกจะเป็นสัตว์ที่คล่องแคล่วว่องไวและฉลาด แต่พวกมันก็เป็นสัตว์ที่ฝึกได้ยากเช่นกัน โดยสิ่งที่สามารถทำได้ก็คือ การใช้เวลากับกระรอกในแต่ละวัน เมื่อมันทำสิ่งที่ดีก็กล่าวชมเชยหรือให้รางวัล แต่มันมักจะไม่เรียนรู้เมื่อเราดุหรือว่ากล่าวตักเตือน เพราะการกระทำที่ไม่พึงประสงค์ของพวกมันส่วนใหญ่เป็นสัญชาติญาณที่ไม่สามารถแก้ไขได้ อย่างเช่นกันเล่นซนหรือทำสิ่งของเสียหาย เป็นต้น
นอกจากนี้ อีกหนึ่งสิ่งที่ควรฝึกกระรอกก็คือ การฝึกขับถ่าย โดยสำหรับกระรอกวัยแรกเกิด ให้ใช้สำลีเปียกถูนวดบริเวณก้นเป็นวงกลมวันละหลาย ๆ ครั้ง เมื่อกระรอกมีอายุได้ 5-6 สัปดาห์ มันจะสามารถขับถ่ายเองได้สะดวกขึ้น หลังจากนั้นก็ฝึกให้มันขับถ่ายในกระบะทราย โดยให้นำอุจจาระของมันไปวางไว้ในกระบะ เพื่อให้มันได้กลิ่นและเข้าใจว่ากระบะทรายคือที่ขับถ่ายสำหรับมัน
สำหรับคนที่กำลังคิดจะเลี้ยงกระรอก ก็ลองนำข้อมูลเหล่านี้ไปพิจารณาดูนะคะ ว่าเหมาะกับเราหรือไม่จะได้ไม่เกิดปัญหาในระยะยาว
ขอบคุณข้อมูลจาก : scimath.org, verdantplanet.org, pets.webmd.com และ wikihow.com